03 February 2008

อีกแง่มุมหนึ่งของ...Blue Ocean Strategy

อีกแง่มุมหนึ่งของ...Blue Ocean Strategy : กลยุทธ์ช่วงที่ไอเดียฝืด-Blue Ocean Strategy

การหาช่องทางที่จะพลิกธุรกิจไปสู่ความเป็นน่านน้ำสีคราม แทนที่จะจมปลักอยู่กับการแข่งขันในด้านราคาและคู่แข่งจำนวนมาก ดร.เบน เอ็ม บองซาดู หนึ่งในทีมวิจัยของหนังสือบลูโอเชี่ยน ซึ่งได้เปิดเผยไว้อย่างน่าสนใจ

กลยุทธ์น่านน้ำสีคราม สามารถตีความหมายได้ 3 ทาง คือ

1.เป็นหลักเหตุและผล ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ได้จากประวัติศาสตร์ ด้วยวิธีคิด ทัศนคติ และพฤติกรรมที่หลากหลายจากลูกค้า

2.เครื่องมือ ในการประมวลและการจัดรูปแบบกระบวนการคิดที่สามารถกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม

3.กระบวนการ สร้างการทำงานในองค์กรและแผนเชิงรุกให้เกิดวัฒนธรรมของการสร้างสรรค์นวัตกรรม

ทั้งนี้ต้องอย่าลืมว่า...ประวัติศาสตร์เป็น ครู ที่ดีที่สุดที่จะบอกได้ถึงความสำเร็จของแบรนด์ต่างๆ วิธีการหาไอเดียใหม่ๆ จะมาจากการหยั่งรู้ถึงความต้องการของลูกค้า ซึ่งเรียกได้อีกอย่างว่า"Silent Of Customer" และอีกวิธีการหนึ่งเป็นการเฝ้าสังเกตความต้องการของกลุ่มคนที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าของเรา (Non Customer)

หลักการอยู่ที่ว่า ผู้ประกอบการต้องนำลูกค้ามาเป็นจุดศูนย์กลางในการตัดสินใจ เปิดใจกว้างรับฟังคำติชมและสิ่งที่ลูกค้าต้องการพยายามตั้งคำถามกับแนวทาง 4 อย่างของบลูโอเชี่ยน รวมทั้งการออกไปพบลูกค้าและสังเกตุพฤติกรรม ซึ่งแนวทางของบลูโอเชี่ยน ที่ว่า คือ

1.การตัดทอน(Eliminate)

2.การลดลง(Reduce)

3.การเพิ่มขึ้น(Raise)

4.การสร้างสรรค์(Create)

ถ้าสามารถทำได้จริง จะเป็น "วิธีการ" สร้างขอบเขต "น่านน้ำสีคราม" ได้อีกมาก และเคล็ดลับในการเฟ้นหาโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เพียงแค่การสร้าง"แผนภูมิ" เพื่อกำหนดปัจจัยองค์ประกอบของธุรกิจที่ดี สิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ หรือเจ้าของแบรนด์ต้องไม่เข้าข้างสินค้าและบริการของตัวเอง และจะต้องไม่ประเมินความสามารถของคู่แข่งในระดับที่ต่ำเกินไป เพราะจะเกิดความลำเอียง และไม่เที่ยงตรง และเป้าหมายของการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ไม่ได้อยู่เพียงแค่สร้างให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ หรือประคับประคองให้ธุรกิจนั้นสร้างความแตกต่างเพื่อความอยู่รอด แท้ที่จริงเป็นการสร้าง"ความสุข" ให้กับลูกค้าอย่างถึงที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์ในแบรนด์และความประทับใจที่จะต่อยอดถึงความจงรักภักดีในแบนด์นั้นๆ

Source: http://www.sarinaccount.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=422405&Ntype=7

No comments: